บิ๊กรอย-บิ๊กโจ๊ก รับตัวคนไทยจากกัมพูชา หลังตำรวจไทย-กัมพูชาประสานความร่วมมือเข้าช่วยเหลือเหยื่อคนไทยถูกบังคับทำงานผิดกฎหมาย

บิ๊กรอย-บิ๊กโจ๊ก รับตัวคนไทยจากกัมพูชา หลังตำรวจไทย-กัมพูชาประสานความร่วมมือเข้าช่วยเหลือเหยื่อคนไทยถูกบังคับทำงานผิดกฎหมาย

 


จากกรณีเมื่อวันที่ ๑๐-๑๑ เม.ย.๖๕ พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ หักพาล ผู้ช่วย ผบ.ตร./รอง ผอ.ศพดส.ตร. นำตำรวจไทยร่วมกับตำรวจกัมพูชา เข้าช่วยเหลือเหยื่อคนไทยที่ถูกบังคับทำงานแก๊งคอลเซ็นเตอร์และหลอกลงทุน จำนวน ๖๘ คน จากกรุงพนมเปญ เมืองพระสีหนุ และเมืองบาร์เวต ประเทศกัมพูชา โดยเหยื่อทั้งหมดถูกบังคับทำงานหลอกลวงคนไทย สร้างความเสียหายหลายร้อยล้านบาทต่อเดือน ตามที่เป็นข่าวในสื่อโทรทัศน์และโซเชียลมีเดีย นั้น


ต่อมา พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผบ.ตร. , พล.ต.อ.รอย อิงคไพโรจน์ รอง ผบ.ตร./ ผอ.ศพดส.ตร. พร้อมคณะได้เดินทางไปยังประเทศกัมพูชา เข้าพูดคุยประสานความร่วมมือกับ พล.ต.อ.เน็ท สะเวิน ผบ.ตร.ประเทศกัมพูชา เพื่อหารือแนวทางความร่วมมือในการป้องกันการหลอกลวงคนไทยมาทำงานผิดกฎหมายในประเทศกัมพูชา รวมทั้งการนำคนไทยที่ได้รับการช่วยเหลือในรายล่าสุดกลับประเทศไทยโดยเร็ว
ภายหลังจากประสานความร่วมมือและดำเนินการตามขั้นตอนกฎหมายของประเทศกัมพูชาแล้ว วันนี้ (๑๕ เม.ย.๖๕) ตำรวจประเทศกัมพูชาได้ส่งตัวคนไทยทั้ง ๖๘ คน กลับประเทศผ่านทางด่านชายแดนอรัญประเทศ จ.สระแก้ว โดยจะเร่งนำเหยื่อทั้งหมดเข้าสู่กระบวนตามมาตรการสาธาณสุข และดำเนินการคัดแยกเหยื่อในการดำเนินคดีการค้ามนุษย์และมีส่วนร่วมในองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ ตั้งแต่ผู้โฆษณาหลอกลวงเหยื่อในสื่อโซเชียล ผู้นำพาเหยื่อหลบหนีตามช่องทางธรรมชาติ จนถึงนายทุนชาวจีนที่เป็นหัวหน้าแก๊ง


โดยเหยื่อทั้งหมดยอมรับว่า พวกตนได้เดินทางโดยรถตู้จากกรุงเทพและจังหวัดใกล้เคียง จนมาถึงจ.สระแก้ว และใช้การเดินเท้าผ่านป่าตามแนวตะเข็บชายแดน ข้ามไปยังฝั่งประเทศกัมพูชา หลังจากนั้นจะมีรถมารับไปกักตัวที่ตึกแห่งหนึ่ง ก่อนจะถูกส่งตัวให้กับกลุ่มนายทุนชาวจีน ซึ่งมีฐานปฏิบัติการอยู่ในกรุงพนมเปญ และเมืองพระสีหนุ ประเทศกัมพูชา และจะบังคับให้ทำงานผิดกฎหมาย หากไม่ทำตามก็จะถูกทำร้าย ถูกกักขัง บางรายถูกขายต่อไปยังนายทุนจีนคนอื่นในราคา ๓,๐๐๐ ดอลลาร์ ซึ่งพวกตนพยายามขอความช่วยเหลือจากเจ้าหน้าที่ไทยมาโดยตลอด จนกระทั่งเจ้าหน้าที่ตำรวจไทย-กัมพูชา เข้าช่วยเหลือออกมาได้อย่างปลอดภัยโดยยังมีคนไทยอีกไม่ต่ำกว่า ๑,๐๐๐ คน ที่ยังถูกบังคับทำงานอยู่ในหลายๆ เมืองอีกมาก


พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ กล่าวว่า ที่ผ่านมา ศพดส.ตร. ได้ช่วยเหลือคนไทยกลับมาเป็นจำนวนมาก และขณะนี้อยู่ระหว่างดำเนินคดีกับผู้ร่วมขบวนการจำนวนหลายราย โดยในวันนี้ยังได้มีการเรียกประชุมหน่วยงานต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง เพื่อติดตามความก้าวหน้าผลการดำเนินคดี และกำหนดแนวทางในการป้องกันไม่ให้คนไทยถูกหลอกลวงไปทำงานผิดกฎหมายในประเทศเพื่อนบ้าน ในส่วนของคนไทยที่เดินทางกลับมาได้ให้ความร่วมมือในการให้ข้อมูลที่เป็นประโยชน์ในการดำเนินคดีกับผู้เกี่ยวข้อง และได้มีการสั่งการในที่ประชุมให้มีการขยายผลเพื่อดำเนินคดีกับผู้ที่เกี่ยวข้องทุกรายอย่างรวดเร็วและเฉียบขาด


ในการนี้ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ขอความร่วมมือพี่น้องสื่อมวลชน ประชาสัมพันธ์ให้ประชาชน ได้ทราบถึงการดำเนินการและการกระทำผิดที่เกี่ยวข้องกับการหลอกลวงคนไทยไปทำงานผิดกฎหมายดังกล่าว หากประชาชนพบเห็นการกระทำผิดในลักษณะดังกล่าว สามารถแจ้งข้อมูลมายัง ศูนย์พิทักษ์เด็ก สตรี ครอบครัว ป้องกันปราบปรามการค้ามนุษย์ และภาคประมง สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ศพดส.ตร.) โดยตรง ช่องทางสายด่วน 1599 หรือ www.humantrafficking.police.go.th หรือ ผ่านช่องทางเฟซบุ๊ก https://www.facebook.com/TICAC2016 หรือ LineOA: @HUMANTRAFFICKTH หรือ TWITTER: @safe_dek หรือช่องทางใหม่ล่าสุดคือ การสแกน QRCODE เพื่อกรอกแบบฟอร์มในการแจ้งเหตุและเบาะแสการกระทำผิดดังกล่าวเพื่อแจ้งเบาะแสในการปราบปรามการกระทำผิดต่อไป

Related posts